ที่ฟาร์ม เลี้ยงหอยนางรม หมู่ที่ 1 บ้านท่าเรือ ต.วังวน อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นของนายประกิจ พิทักษ์กาญจน์ อายุ 52 ปี เลี้ยงหอยนางรมมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ในปีนี้ เกษตรกร ได้นำ ยางล้อรถยนต์เก่า ที่เหลือใช้ มาผ่าเป็น 2 ซีก นำมาแขวนไว้ในกระชังทั้งหมด 15 กระชัง รวมลูกหอยประมาณ 10,000 ตัว
โดยเลี้ยงควบคู่ไปกับการเลี้ยงหอยนางรมแบบทั่วไป ปรากฏว่า 5 เดือนผ่านไป ได้หอยนางรมตัวใหญ่ โตเร็ว เนื้อแน่น กว่าแบบแขวนธรรมดา แต่ต้องเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 6-7 เดือน จึงจะได้หอยนางรมที่ได้ขนาด ส่งร้านอาหารและภัตตาคารต่าง ๆ ในราคาตัวละ 20-25 บาท
ซึ่งการทดลอง เลี้ยงหอยนางรมยกล้อ ต้นทุนต่ำ และยังทำให้ลูกหอยนางรมที่ถูกพัดพามากับกระแสน้ำ เกาะตัวได้แน่นกว่าแบบแขวน ซึ่งมีเพียงเชือกเส้นเดียว ซึ่งขณะนี้ มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากหลายจังหวัด ติดต่อสั่งซื้อข้ามปี เพราะมีหอยนางรมไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
โดยเวลาที่จะจับขาย ก็ยกมาทั้งล้อ แล้วแกะเอาเฉพาะตัวหอยที่ได้ขนาด โดยหอยนางรมที่บ้านท่าเรือ ต.วังวน สามารถบีบมะนาวแล้วรับประทานสดได้ แต่หากให้ครบเครื่อง จะต้องมีน้ำจิ้มซีฟู๊ด มียอดกระถินและกระเทียมเจียวด้วย ซึ่งหอยนางรมฝั่งอันดามัน จะมีสีคล้ำออกน้ำตาลๆ ไม่ขาวและใหญ่เหมือนฝั่งอ่าวไทย แต่รสชาติหวานกว่า เนื้อแน่น โดยเชื่อกันว่า หอยนางรมดิบมีสรรพคุณในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ดี เป็นยาอายุวัฒนะ และมีปริมาณแคลอรี่ต่ำ เมื่อเทียบกับอาหารทะเลชนิดอื่น ทำให้เพศชายนิยมหาซื้อไปรับประทานกันมาก ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรบ้านท่าเรือเลี้ยงหอยนางรมแบบยกล้อเพียงรายเดียว แต่หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ก็จะขยายการเลี้ยงออกไปอีกจากเดิม 15 กระชังเป็น 20-25 กระชังในอนาคตอันใกล้
ซึ่งนายประกิจ พิทักษ์กาญจน์ เกษตรกรผู้เลี้ยงหอยนางรมฯ บอกว่า ตนได้ศึกษาดูว่า การเอาล้อยางมาแขวนจะได้ผลหรือไม่ ปรากฏว่าได้ผลดี โดยล้อยาง 1 ลูก ให้ลูกหอยเกาะได้ประมาณ 30-40 ตัว แต่ละรอบที่ขายต่อเดือนมีรายได้ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท ซึ่งกำลังจะเปิดให้มีการมาศึกษาดูงาน และเพื่อให้ชาวบ้านรับรู้ว่าการเลี้ยงหอยแบบยางล้อรถยนต์ดีกว่าการเลี้ยงปลาในกระชัง เพราะไม่ต้องลงทุนอะไร เพียงแต่ทำกระชัง และนำล้อยางมาแขวนไว้
ซึ่งตอนนี้ตนเลี้ยงหอยประมาณ 15 กระชัง มีหอยประมาณ 10,000 ตัว ราคาขายอยู่ที่ตัวละ 5-25 บาท ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 1 ปี แต่ปีนี้ราคาหอยดีกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งการทดลองเลี้ยงหอยนางรมยกล้อ ต้นทุนต่ำ และยังทำให้ลูกหอยนางรมที่ถูกพัดพามากับกระแสน้ำ เกาะตัวได้แน่นกว่าแบบแขวน ซึ่งมีเพียงเชือกเส้นเดียว โดยหอยนางรมจับกินแพลงตอนพืชและแพลงตอนสัตว์ที่มากับกระแสน้ำเป็นอาหาร หากคุณภาพน้ำดี ออกซิเจนในน้ำมากและอากาศถ่ายเทสะดวก จะทำให้หอยนางรมโตเร็ว สามารถจับขายได้ก่อนกำหนด ซึ่งขณะนี้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากหลายจังหวัด ติดต่อสั่งซื้อข้ามปี เพราะมีหอยนางรมไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยเวลาจับขายก็ยกมาทั้งล้อ แล้วแกะเอาเฉพาะตัวหอยที่ได้ขนาด
ซึ่งเจ้าของบอกอีกว่า กำลังจะเปิดให้มีการมาศึกษาดูงาน และเพื่อให้ชาวบ้านรับรู้ว่าการเลี้ยงหอยแบบยางล้อรถยนต์ดีกว่าการเลี้ยงปลาในกระชัง เพราะไม่ต้องลงทุนอะไร เพียงแต่ทำกระชังและนำล้อยางมาแขวนไว้ ซึ่งตอนนี้ตนเลี้ยงหอยประมาณ 15 กระชังมีหอยประมาณ 10,000 ตัว ราคาขายอยู่ที่ตัวละ 5-25 บาท ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 1 ปี แต่ปีนี้ราคาหอยดีกว่าปีที่ผ่านมา