ปังไม่หยุด! สาวสวยตาก ขายอาโวคาโด รายได้หลักแสน
ถ้าพูดถึงผลไม้ที่เต็มไปด้วยประโยชน์และดีต่อสุขภาพ คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก อะโวกาโด นะคะ คนที่กินอาหารคลีน หรือรักกสุขภาพต้องเคยกินแน่นอน ซึ่งวันนี้ (9 เม.ย.64) จันลั่นทุ่ง จะพามาเจอสาวสวย คนตาก ที่ ขายอะโวคาโด จนสร้างรายได้สุดปัง หลักแสนเลยทีเดียว
จากสาวทำงานในโรงพยาบาล ต้องมากลายเป็นเกษตรกร แต่ชีวิตตอนนี้ แฮปปี้สุดๆค่ะ เพราะ คุณ แสงดาว จ่าฟ้า อายุ 30ปี หรือ คุณหญิง บอกกับจันลั่นทุ่ง ว่า แฟนของคุณหญิง เป็นคนริเริ่มในการปลูกอะโวคาโด เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบ ก็กลับบ้านที่อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอะโวคาโดที่ขึ้นเอง ตามธรรมชาติ ก็เริ่มมาเพาะต้นกล้าเพื่อจำหน่าย หลังจากนั้น ก็เริ่มเก็บผลของอะโวคาโดเพื่อขาย ตามฤดูกาล โดยคุณหญิงบอกว่า ทั้งขายส่ง ขายปลีกแบบมีหน้าร้านและลุยตลาดออนไลน์ค่ะ เรียกว่าเอารายได้ทุกช่องทางเลยทีเดียว
แม้สภาพอากาศบนดอยจะดี เป็นใจในการปลูกพืชชนิดต่างๆนอกจากอะโวคาโดแล้ว ก็มีทั้ง พริก ข้าวโพด มันสำปะหลัง แต่อุปสรรค คือ ขาดแคลนแหล่งน้ำทางธรรมชาติ ที่จะใช้การเพาะปลูกค่ะ ซึ่งคุณหญิง บอกว่า ทางแก้ไขคือ ต้องเจาะน้ำบาดาลเอง ซึ่งค่าดำเนินการก็มีราคาสูงค่ะ ขุดลึก 100 เมตร ก็มีค่าใช้จ่ายกว่า 2-3 แสนบาทเลยทีเดียว แต่ก็ต้องยอม เพื่อให้ต้นอะโวคาโดงอกงาม
ขณะที่ต้นทุนการปลูกต่อไร่ ก็ค่อนข้างสูงนะคะ 1 ไร่ ก็จะใช้ต้นพันธุ์ประมาณ 40 ต้น ราคาจะอยู่ที่ 80-350 บาท ค่ะ ซึ่งต้นพันธุ์คุณหญิงก็เพาะจำหน่ายนะคะ มี 5 สายพันธุ์หลักด้วยกัน ได้แก่ Buccaneer บัคคาเนียผลดก เนื้อหอมนิ่มเหมือนไข่/LambHass แลมแฮส โตเร็ว ผลดก พื้นที่ ที่สวนร้อนมากในฤดูแล้งและอากาศหนาวเย็นมากในฤดูหนาว /Hass สายพันธุ์แฮสจะคุณภาพดีที่สุดค่ะ /booth7 บูท7เปลือกหนา ทนต่อขนส่ง รสชาติเหนียวมันหวาน/Peterson ปีเตอร์สันเปลือกบางสุกง่าย เป็นสายพันธุ์ที่เก็บเกี่ยวก่อนสายพันธุ์อื่น ได้เปรียบด้านการตลาด
อีกทั้งรสชาติที่เหนียวมันติดหวาน ถูกปากผู้คนส่วนใหญ่จะชอบมากค่ะ /Pinkerton พิ้งเคอตั้นจะเป็นสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการมากที่สุด เพราะ คุณภาพเนื้อและรสชาติดีมาก อีกทั้งเปลือกหนาขนส่งออกนอกได้สบายเลยค่ะ ราคาขายอยู่ที่ พันธุ์ แฮส100-180 บาท/พิ้งเคอตั้น80-150 บาท/บูท7=50-90 บาท/บัคคาเนีย50-90 บาท/ ปีเตอร์สัน 60-100 บาท ค่ะ รวมๆแล้ว เดือนนึงคุณหญิง มีรายได้จากการขายผลและต้นพันธุ์ กว่า แสนบาทเลยทีเดียว!
ช่วงที่เหมาะกับการปลูกอะโวคาโด คุณหญิงบอกว่า จะอยู่ในช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน -มกราคม เลยค่ะ แต่ละสายพันธุ์ก็จะทยอยเก็บผลผลิตไม่เหมือนกัน ส่วนช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะไม่ค่อยีผลผลิตค่ะ ก็จะเริ่มเป็นการนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและเมียนมาค่ะ
ในอนาคตคุณหญิง บอกว่า วางแผนที่จะขยายและพัฒนาสายพันธุ์ ให้ปลูกได้ทุกพื้นที่ มากกว่าการปลูกในพื้นที่สูง ควบคู่ไปกับการผลิตค่ะ ส่วนใครสนใจ จะปลูก หรืออยากได้ต้นพันธุ์ และลูกอะโวคาโดผลกลมๆ ไว้รับประทาน คุณหญิง เค้าเปิดสวนให้เข้าชมด้วยนะคะ สอบถามได้ที่เฟซบุ๊ก หญิง อาโวกาโด หรือที่เบอร์โทรศัพท์ 061-3581465 คุณหญิงรอรับสายอยู่ค่ะ
สวย ใจดีแบบนี้ จัน ขอให้ขายได้ปังๆเลยนะคะ
