กต. โต้ มธ. ปม โมเดอร์นา จากโปแลนด์ ขณะที่ มธ. ตอบกลับทันที

กต. โต้ มธ. ปม วัคซีน โมเดอร์นา จากโปแลนด์ ขณะที่ มธ. โพสต์ตอบกลับทันที

น่าจะไม่จบง่ายๆ สำหรับกรณีการนำเข้าวัคซีน โมเดอร์นา จำนวน 1.5 ล้านโดส จากประเทศโปแลนด์ ซึ่งเมื่อวานนี้ (2 พ.ย. 64) กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ว่า จากการที่เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับบริจาควัคซีนโมเดอร์นา

จากสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของโปแลนด์ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยระบุว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอให้กระทรวงการต่างประเทศออกจดหมายยืนยันว่ารัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าว แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่ออกหนังสือดังกล่าวให้ ทำให้การบริจาควัคซีนดังกล่าวต้องยกเลิกไปนั้น ขอชี้แจงว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แจ้งกระทรวงการต่างประเทศว่า ในการรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงจะรับวัคซีนจำนวน 1 ใน 3 ของวัคซีนที่ได้รับบริจาคไว้เอง

เพื่อให้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และจะมอบวัคซีนที่ได้รับบริจาคมาอีก 2 ใน 3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วน เพื่อนำไปจำหน่ายให้ผู้สนใจ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์แล้ว ได้รับแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย และฝ่ายไทยต้องได้รับ market authorization จากบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นาด้วย ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติโดยทั่วไปของการบริจาควัคซีนและเวชภัณฑ์ระหว่างประเทศ และไม่สามารถเจรจาต่อรองได้ นอกจากนี้

ตัวแทนบริษัทวัคซีนได้แจ้งกระทรวงการต่างประเทศในลักษณะเดียวกันว่า จะต้องไม่มีการนำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีสถานะเป็นผู้แทนรัฐบาลโปแลนด์ ไม่เคยยืนยันว่ารัฐบาลโปแลนด์ยินดีบริจาควัคซีนดังกล่าวให้ฝ่ายไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย

จึงไม่อยู่ในสถานะที่จะมีหนังสือยืนยันว่ารัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโปแลนด์ และความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อีกทั้งยังอาจทำให้บริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีนฟ้องร้องรัฐบาลไทยในภายหลัง โดยการพิจารณาของกระทรวงการต่างประเทศเป็นไปโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก

ทั้งนี้ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยปิดกั้นความพยายามของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และหุ้นส่วนเอกชนที่จะขอรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์หรือประเทศใด และในกรณีนี้ได้แนะนำด้วยว่า ให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หารือโดยตรงกับหน่วยงานที่ประสงค์บริจาคต่อไป

ต่อมาในวันนี้ เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวว่า การที่กระทรวงการต่างประเทศได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลที่ไม่ออกหนังสือรับรองให้ธรรมศาสตร์นั้น ทางมธ.ตั้งข้อสังเกตว่า กต.ไม่เคยแจ้งเหตุผลข้อหลังนี้ให้ทางมธ.ทราบมาก่อน และไม่เคยสอบถามรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับ”การค้าวัคซีน”นี้ มายังมธ.เลย แม้ในจดหมายที่เป็นทางการที่ ทาง กต.ตอบมายังอธิการบดี มธ. ก็ไม่เคยแจ้งมาทาง มธ. ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน เพราะหากแจ้งมาแล้ว ทางมธ. คงจะได้เข้าปรึกษาหารือกับ กต. และหาแนวทางอื่นในการดำเนินการร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศได้ทันท่วงที ทั้งนี้ ยืนยันว่า ได้แจ้งแก่ผู้แทนที่กต. มอบให้เป็นผู้ประสานงานว่า มธ.กำลังดำเนินการเพื่อขอความเห็นชอบจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ที่โปแลนด์จะบริจาควัคซีนให้แก่มธ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐในประเทศไทย และได้ดำเนินการคู่ขนานไปกับการขอให้ทาง กต. ทำจดหมายแจ้งไปยังโปแลนด์อยู่แล้ว ซึ่งการให้ความยินยอมนี้ จะเกิดง่ายขึ้น หากมีจดหมายจาก กต.รับรองสถานะของธรรมศาสตร์อีกทางหนึ่งด้วย

ส่วนเรื่องการแบ่งวัคซีนอีกหนึ่งล้านโดสให้เอกชนคู่สัญญานำไปจำหน่ายนั้น มธ.ได้แจ้งแก่ผู้แทน กต.ตั้งแต่ต้นว่า การบริจาคครั้งนี้ เป็นการบริจาควัคซีนจากคลังสำรองในโปแลนด์ ผู้รับบริจาคจะต้องส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบสภาพ สถานะ และลอตการผลิต ตลอดจนจัดเตรียมการจัดส่งและตรวจสอบจัดการในเรื่อง logistic เพื่อนำวัคซีนไปยังสนามบิน จัดการการขนส่ง การประกันภัยวัคซีน พิธีการศุลกากร และการบริหารจัดการคลังเก็บวัดซีนในประเทศ

ตลอดทั้งการประกันภัยผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้คิดเป็นเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งกรณีของมธ.นั้น ไม่มีงบประมาณที่สามารถนำมาจ่ายได้ จึงได้ขอให้ภาคเอกชนคู่สัญญา เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และตกลงว่าจะให้นำวัคซีน Moderna จำนวน 1 ล้านโดส ออกไปกระจายฉีดให้ประชาชนทั่วไป โดยคิดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ประกันภัย และโลจิสติคที่เกี่ยวข้องได้ ตามราคาต้นทุนที่ได้จ่ายไปจริง ซึ่ง มธ.ได้แจ้งผู้แทน กต. ว่าจะมีการแถลงข่าว แจกแจงรายการต่างๆพร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่า “ค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งวัคซีนบริจาค” ลอตนี้ มีจำนวนเท่าใด

และจะขอให้ผู้ฉีดวัคซีนในส่วนหนึ่งล้านโดสนั้น ช่วยรับผิดชอบร่วมกันด้วย โดยเมื่อได้คำนวนค่าใช้จ่ายแล้ว ตกลงจะเรียกเก็บค่าใช้จ่าย เป็นจำนวนโดสละ 400 บาท ต่ำกว่าราคาต้นทุนวัคซีนที่หน่วยงานภาครัฐที่นำวัคซีนชนิดนี้เข้ามาในประเทศ เรียกเก็บจากสถานพยาบาลต่างๆอยู่เป็นอย่างมาก ซึ่งได้แจ้งหลักเกณฑ์และจำนวนค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้ผู้แทน กต. ทราบด้วยแล้วเช่นกัน

คลิปแนะนำอีจัน
ไม่ตรงปก? บ้านจัดสรรขายฝัน