วันนี้ (8 เม.ย.64) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เเละอดีตสมาชิกสภาผู้เเทนราษฎร ได้ออกมากล่าวถึง สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้ หลังจากมีรัฐมนตรีท่านหนึ่งติดโควิด-19
โดยนายชูวิทย์ได้กล่าว ในเรื่องเกี่ยวกับครัสตัล คลับ ตนได้โพสต์ข้อความเเละคลิป บรรยากาศภายในร้าน เพื่อให้ชาวบ้านได้เห็นว่า ครัสตัลคลับ เป็นยังไง เพราะคนธรรมดาเข้าไปในนั้นไม่ได้อยู่เเล้ว คิดเงินมาโต๊ะหนึ่ง 50,000 บาท เข้าห้องอีกเป็นเเสน เเต่นั่นเป็นคลิปเก่า ไม่ใช่คลิปในวันที่ทำให้ติดโควิด-19 เเค่อยากให้เห็นบรรยากาศเท่านั้น เพราะมันเป็น เลาจน์ ระดับไฮโซ
“คริสตัลคลับ ผมเปรียบเหมือน ไทยคู่ฟ้าคลับ”
เหตุผลที่พูดอย่างนั้นเพราะ รองนายกรัฐมนตรี สส. ผู้ว่าฯ … ก็ไป ทีมงานตำรวจติดตามก็ไปที 10 กว่าคัน
เรื่องทำมาหากิน ตนไม่ได้ว่าอะไร ครัสตัล คลับมีทั้งโซนผับ โซนบาร์
โซนผับ วัยรุ่นไปกัน เเต่ VVIP มีลิฟต์ขึ้นตรงไปห้องสูทได้เลย 1 เเสนบาทอย่างต่ำ
เเล้วทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาพูด เพราะคนรวยติด ประชาชนเดือดร้อนไปหมด
รัฐบาลบอกว่า ต้องเว้นระยะห่าง เเต่ไปสถานที่แบบนั้น มันจะเว้นระยะห่างได้ไหม ?
เรื่อง คริสตัลคลับ ตนไม่ได้ว่า จะเปิดทำมาหากินก็ทำไป คนไปเที่ยวผิดไหม ก็ไม่ผิด คนทำงานผิดไหม ก็ไม่ผิด เเต่เเค่ต้องยอมรับมาตรงๆ เเต่ถ้าที่ที่เข้าไปมันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เป็นบ่อนการพนัน อย่างนี้ถึงจะว่ากันได้
สมัยก่อนตอนทำงาน ตนบอกว่า ถ้าอายก็ไม่ต้องทำ จะอายทำไม ไม่ได้ค้ายา ไม่ได้ไปฆ่าใคร นี่คืออาชีพสุจริต ดังนั้น คลิปที่โพสต์ตนเลยไม่ปิดบังอะไร
เพราะฉะนั้น คนที่ไป ต้องเเจ้งไทมไลน์ให้ชัดเจน เพราะเรื่องนี้มันมีผลกระทบ จะมาบอกคนนู้นคนนี้ต้องเเจ้งไทม์ไลน์เวลาไปไหน เเล้วตัวเองจะอายอะไร จะปิดบังชาวบ้านทำไม เเล้วสุดท้ายก็ส่งผลกันไปหมด กับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
ก่อนที่นายชูวิทย์ จะเปิดคลิปบรรยากาศภายในให้สื่อมวลชนได้ดู เป็นภาพที่พนักงานร้านอยู่บนเวทีเดินวนกินเหล้าดริ๊งค์
นายชูวิทย์ กล่าวต่อ อย่างนี้จะไม่ติดได้ยังไง เพราะ เด็กๆ เวียนกันกิน เเก้วเหล้าเดียวกันอย่างนี้ ก่อนตั้งคำถามว่า เข้มงวดกับชาวบ้าน เเต่ทำไมสถานที่แบบนี้ถึงไม่เข้มงวด
“ตนรู้ดี เพราะสมัยก่อน ตนก็ทำแบบนี้ เจ้าพ่ออบายมุกอย่างตน ทำไมจะไม่รู้ การมาคุยในสถานที่อย่างนี้ มันจะทำให้การคุยกันมันราบรื่น วางแผนลงตัว ไม่มีใครว่า เเต่ที่ตำหนิคือ คุณไม่จำเป็นต้องปิดบัง ชายชาตรี มีสิทธิ์ไปกินเหล้าเเล้วมาทำงาน เเต่ที่ผิดคือ ถ้าปกปิดเเล้วไม่เผยความจริง ไม่พูดว่าตัวเองไป ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไปปิดเขต ปิดทั้งจังหวัด เเทนที่ช่วงสงกรานต์ชาวบ้านจะได้ลืมตาอ้าปาก เเต่ก็ไม่ได้ เพราะถูกปิด ถ้าเป็นลูกผู้ชายพอก็พูดออกมาเลย ไม่เห็นจะผิดอะไร”
จุดประสงค์ของการมาเเถลงข่าววันนี้ คือ การกระทำของสถานที่นี้ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน มันไม่ใช่การ์ดตก เเต่เป็นการ์ดร่วง ความซวยมาตกกับชาวบ้าน เเท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ คนที่เป็นเด็กเสิร์ฟ ปิดร้านอาหารเขา 3 ทุ่ม ถ้าอยากจะเที่ยว ถ้าอย่างนั้นก็ให้เงินคนในครอบครัวเเทนไปเลย
เรื่องมันมาตอนต้นเมษายน เเต่คลิปที่เปิดให้ดูมันเป็นเวลาใกล้ๆ กัน ตนไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันวันเดียวกันหรือเปล่า เเต่ในนั้นมันก็มีกล้องวงจรปิด เวลาเราไปเที่ยวแบบนั้น การถอดหน้ากากเป็นเรื่องปกติอยู่เเล้ว สถานนี้แบบนี้ไม่มีทางที่จะป้องกันได้เลย การติดเชื้อมันก็ 100 % เพราะมันเกิดการใกล้ชิด เเต่มันก็ไม่ผิด มันผิดเเค่ ที่คุณไม่เเจ้งความจริง
มาที่เรื่องของวัคซีน วัคซีนในประเทศไทย ฉีดน้อยกว่าประเทศเมียนมาอีก จะวัคซีนยี่ห้ออะไรก็เอามาเถอะ เเต่ตอนนี้ธุรกิจพังมาเป็นปีเเล้ว วัคซีนจะมาเดือนหน้า เดือนไหน เเต่ชาวบ้านเขาต้องกินต้องใช้ ทุกคนเดือดร้อน เเละเดือดร้อนหนักขึ้นทุกครั้งที่คุณปิด เเต่การปิดของคุณ ก็พูดว่าปิด หรือ ล็อกดาวน์ เเต่มันก็คือล็อกอยู่เเล้วในตัว
การกระทำแบบนี้ เเสดงว่าเเม้เเต่รัฐบาลเองก็ยังไม่ระมัดระวังตัว เเล้วมันเเพร่กระจายไปถึงคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีกักตัว 14 วันก็ไม่ต้องทำงาน ก็เดือนร้อนไปหมด ถ้าจะป้องกันจริงๆ ต้องไม่ไปเที่ยว
ส่วนหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า คนดังหรือ รัฐมนตรีมีการออกไปเที่ยวจนติดโควิด-19 นายชูวิทย์ บอกว่า สามารถให้ได้เเค่รูปถ่ายรถ เท่านั้น เพราะ เวลาลงจากรถก็ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวที่รับเฉพาะเเขกผู้ใหญ่เลย พร้อมกับฝากบอกว่า
“เขาไม่ผิด ถ้าเขาเป็นลูกผู้ชายพอก็พูดออกมาเลย ยอมรับว่าไป เท่กว่า ไปก็บอกว่าไป เป็นผู้ชายอยากจะไป ผิดอะไร ก็ในเมื่อมันนอกเวลางานเเล้ว จะไปคุยธุระเรื่องบ้านเมือง เรื่องสัมปาทาน ผมเปิดเผยตลอด เราทำมาหากินสุจริต ไม่ได้ไปปล้นใคร จะกลัวอะไร อายทำไม ทำผิดสิต้องอาย”
ซึ่งลักษณะแบบนี้ ไม่ได้มีเเค่ในกทม. ต่างจังหวัดก็มี เวลาเข้าไปในสถานที่แบบนั้น ผู้ชายคงจะเข้าใจ ความรู้สึกมันจะเปลี่ยนทันที ผมไม่อยากจะบอกว่าผิดหรือถูก เเต่เเค่อยากจะให้ออกมาเเจ้งไทม์ไลน์ ขอความกรุณา คนที่ไปให้พูดความจริง ไม่งั้นชาวบ้านเขาก็เดือดนร้อนกันหมด
หากเปรียบเทียบกับเคสดีเจมะตูม ครั้งนี้ถือว่าหนักกว่าเยอะ
ถ้าให้เปรียบ คนรวยก็ต้องเจอคนเยอะ คนติดตามเยอะ ถ้าคนรวยติด มันก็มากกว่าคนไม่มีอยู่เเล้ว เเต่ถ้าเป็นชาวบ้านเขาก็ไปไม่กี่ที่ จะปิดร้านอาหาร เเต่ไม่มีใครติดจากร้านอาหารเลย ส่วนที่ ศบค. จะปิดสถานบันเทิงใน 41 จังหวัด เป็นเวลา 14 วัน เเต่หลังจาก 14 วันมาเปิดใหม่ก็ติดอีก ดังนั้น มาตรการของรัฐจะต้องเเน่วเเน่ มั่นคง เเละควบคุมได้ โควิด-19มันคุมไม่ได้หรอก คนเราวันๆหนึ่งไปตั้งกี่ที โดยเฉพาะนักการเมืองเจอคนกี่คน ถ้ายอมรับ มันก้คือการระบาดรอบ 3 ชัดเจนอยู่เเล้ว
ความเดือดร้อนจากคริสตัล คลับในครั้งนี้ พาลไปเดือดร้อนกับคนอื่นไปหมด ทุกครั้งจะเป็นแบบนี้ รัฐไทยจะจัดการแบบนี้ ปิดกันไปหมด เเล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนที่ไม่รู้เรื่องด้วย รัฐควรคิดเรื่องนี้ให้ถูก ควรจำกัดกับคนที่ควรจำกัด ถ้าจะป้องกัน ควรคิดว่าการป้องกันมันหละหลวมหรือไม่
ส่วนการที่ไม่ออกมาพูด เป็นเพราะ กังวลเรื่องภาพลักษณ์หน้าตา ครอบครัวหรือไม่นั้น อันนี้ต่างคนต่างคิด การไปอย่างนี้ มันไม่ได้น่าเกลียดมาก ภาพลักษณ์มันไม่ได้เกิดจากการรักษาตัวว่าตัวเองเป็นคนดี คนไทยไม่ยอมรับความจริง ไม่พูดความจริง ไทม์ไลน์ก็เว้นวรรคไป ทั้งๆ ที่เรื่องพวกนี้มันสำคัญ ควรชี้เเจง เเล้วให้ประชาชนเอาเป็นตัวอย่าง
ส่วนจะเป็นการฝ่าฝืนพรบ.ควบคุมโรค หรือไม่
นายชูวิทย์ ตอบว่า เป็นสถานที่รโหฐาน ถ้าผิดกฎหมาย ตำรวจทองหล่อจะให้เปิดได้ยังไง ถ้าเจอบ่อนการพนัน อันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ตอนนี้ขอเรียกร้องให้พูดความจริง ให้เปิดไทม์ไลน์ ไปจริง ไม่มีอะไรต้องโกหก ถ้ารับความจริง อันนี้คือคนที่เหมาะสมกับคนที่เป็นรัฐมนตรี เเต่ถ้าเรียกร้องเเล้วไม่พูด ตนก็ทำอะไรไม่ได้ มีเเค่ข้อเเนะนำเท่านั้น
ตนอยากให้มองต่างประเทศ เกาหลี เเละญี่ปุ่น รัฐบาลทำผิด ออกมายอมรับความจริง ขอโทษประชาชน ประชาชนก็พร้อมจะให้อภัย การพูดความจริงกับประชาชนในสภาวการณ์แบบนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่สุด