วุ่นทั้งลำ คู่รักติดโควิด แต่ยังขึ้นเครื่องกลับบ้าน จ.นครศรีฯ อ้างกลับมารักษาตัว

อะไรกันนี่? วุ่นทั้งลำ คู่รักติดโควิด แต่ยังขึ้นเครื่องกลับบ้าน จ.นครศรีฯ อ้างกลับมารักษาตัว เร่งตรวจคนในเที่ยวบิน

วุ่นกันทั้งลำ เพราะเธอ 2 คน

วันนี้ 13 เมษายน พ.ศ.2564 ทีมข่าวอีจัน จ.นครศรีธรรมราช รายงานความคืบหน้า หลังพบผู้ป่วยคู่รักหญิงชาย 2 ราย มีพฤติกรรมปกปิดข้อมูล ตรวจพบเชื้อโควิดแต่ยังเดินทางกลับบ้านโดยใช้การเดินทาง เครื่องบินสาธารณะ ไม่เกรงกลัวการแพร่เชื้อ

เบื้องต้นทราบข้อมูลของชายหญิงสองคนว่า ชาย อายุ 26 ปี มีภูมิลำเนาใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเดินทางมาจาก กทม. มาถึง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นโดยสารแท็กซี่จากท่าอากาศยานกลับบ้านย่านชานเมือง ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ไปเข้าตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พบเชื้อและได้เข้าแอดมิท

หลังจากทราบว่าติดโควิด ได้เดินทางกับเที่ยวบิน SL1780 หมายเลขที่นั่ง 1A-3C ออกจากดอนเมือง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 เวลา 06.05 น. ถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เวลา 07.20 น.

ส่วนฝ่ายหญิง อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาใน อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคู่รักได้แยกเดินทางมาในเที่ยวบินช่วงค่ำวันที่ 11 เม.ย.วันเดียวกัน โดยหญิงรายนี้รู้ผลตรวจว่าตัวเองติดเชื้อตั้งแต่ 10 เม.ย. แต่ยังคงเดินทางกลับ จ.นครศรีธรรมราช และโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มารับตัวที่ท่าอากาศยาน เพื่อเข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

หลังจากทราบว่าติดโควิด ได้เดินทางในเที่ยวบินที่ SL792 ออกจากดอนเมืองเวลา 17.10 น. มาถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเวลา 18.40 น. หมายเลขที่นั่ง 7C-11F

ขณะเดียวกัน บริเวณท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเป็นการเร่งด่วน และยังมีรายงานว่าทางท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช สสจ.นครศรีธรรมราช ได้เร่ง ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ขอให้ผู้โดยสารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 เที่ยวบิน SL1780 หมายเลขที่นั่ง 1A-3C ออกจากดอนเมืองเวลา 06.05 น. ถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เวลา 07.20 น. และสายการบินเดียวกันนี้ ในเที่ยวบินที่ SL792 ออกจากดอนเมือง เวลา 17.10 น. มาถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเวลา 18.40 น. หมายเลขที่นั่ง 7C-11F ผู้โดยสารที่นั่งในที่นั่งดังกล่าวนี้ให้เร่งรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านโดยด่วน

นายปรีชากร โมลิกา ประธานภาคีเครือข่ายภาคประชาชนนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับข่าวที่ออกมา ขอเรียกร้องให้ทางจังหวัด ทำจดหมายข่าวแจ้งประชาชนทราบทุกวันไม่ว่าจะเป็นช่องทางใด หรือให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโฆษกจังหวัด เพราะดูเหมือนว่าข่าวที่ออกมาจากสื่อแต่ละสื่อ จะทำให้ประชาชนจิตตก ข่าวนี้ว่าอย่างนั้น ข่าวนั้นว่าอย่างนี้ ออกมาบอกความจริงทั้งหมด ประชาชนจะได้ระวังตัวเอง อย่างคำว่า “แห่งหนึ่ง” บอกมาเลย ผู้ประกอบการ หรือ ประชาชนทั่วไปจะได้ทราบ และจะได้แก้ปัญหาที่มีผลกระทบกับตัวเอง หากจังหวัดยังเงียบอยู่ เขียนอะไรคลุมเครือไม่ชัดเจน ก็จะมีการพูดบอกต่อกันไปเป็นวงกว้าง

“สำหรับคนที่เป็นแล้วก็ให้เร่งออกมาทำการรักษาตัว อยู่ที่ไหนก็ไปรักษาที่นั่น อย่าต้องให้เหมือน 2 คู่รัก พบเชื้อที่ กทม.ยังนั่งเครื่องบินมารักษาตัวที่นครศรีธรรมราช เอาอะไรมาคิด คุณใจร้ายเกินไปหรือไม่ หากไม่ทราบก็ยังไม่เป็นไร อภัยได้ แต่ทราบแล้ว คุณรับผิดชอบสังคมและคนรอบข้างคุณอย่างไร ผู้โดยสารแต่ละคนจะมีภูมิป้องกันตัวเองมากน้อยเพียงใด เคสเหล่านี้จึงเป็นตัวอย่างที่จะต้องพึงระวังป้องกันตัวเองด้วย”

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า เคสหนุ่มสาว ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เดินทางมาด้วยสายการบินทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้รายงานต่อคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สรุปจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มียอดสะสมจากผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 15 รายแล้ว โดยวันที่ 13 เมษายน พบผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกเดือน เมษายน เพิ่ม 3 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 15 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 15 ราย ซึ่งทั้ง 3 รายวันนี้ มีประวัติเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย และมาจาก กทม. 1 ราย ขณะนี้รอสอบสวนเพิ่ม ทำให้วันนี้สถานการณ์ของ จ.นครศรีธรรมราช มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ใครที่โดยสารเที่ยวบินกับทั้งคู่ รีบกักตัวและสังเกตอาการโดยด่วนนะคะ จันเป็นห่วง