สถาบันสุขภาพเด็ก แนะวิธีสังเกตอาการ เด็กอายุ 5-11 ปี หลังฉีดวัคซีน
อาการแบบไหน ควรไปพบแพทย์!
วันนี้ (14 ก.พ. 65) กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โพสต์แนะผู้ปกครอง ผ่านเพจเฟซบุ๊กกรมการแพทย์ อาการเด็ก
อายุ 5- 11ปี หลังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 (Pfizer) สูตรสำหรับเด็ก อาการแบบไหน ควรไปพบแพทย์?
โดย ให้สังเกตอาการหลังฉีด 30 นาที
ทั้งนี้ งดการออกกำลังกาย และกิจกรรมที่ใช้แรงอย่างหนัก ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข
กรมการแพทย์ เล็งเห็นความสำคัญของเด็กช่วงอายุ 5-11 ปี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด19 ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิต รวมทั้งการกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาที่โรงเรียน ส่งเสริมการศึกษาให้ทั่วถึงและเท่าเทียม กระตุ้นพัฒนาการและทักษะทางสังคม ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและดุลยพินิจของแพทย์
ผู้ปกครองต้องเฝ้าระวังอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก 5-11 ปี โดยอาการที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สูตรเด็ก ได้แก่ ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีไข้ ดังนั้น ก่อนการฉีดควรเตรียมตัวเด็กให้พร้อม รับประทานอาหารและน้ำตามปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ
ทั้งนี้ หลังฉีดวัคซีน ผู้ปกครองควรดูแลไม่ให้บุตรหลานออกกำลังกาย ปีนป่าย วิ่ง ว่ายน้ำ หรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก เป็นระยะเวลา 7 วัน เพื่อป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หากเกิดอาการรุนแรงหลังรับวัคซีน ได้แก่ เจ็บหน้าอก หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย ใจสั่น ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส ปวดหัวรุนแรง อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้หรือซึม ไม่รู้สึกตัว ควรพบแพทย์ทันที เพื่อรักษาและติดตามอาการ
นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เผยว่า ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรงในเด็กกลุ่มนี้ แต่ยังจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาที ในสถานที่ฉีดวัคซีนด้วยเสมอ ส่วนอาการข้างเคียงทั่วไปหลังฉีดวัคซีน พบน้อยกว่ากลุ่มเด็กโตและผู้ใหญ่ อาการดังกล่าวสามารถหายได้เอง เมื่อรับประทานยาลดไข้ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ทั้งนี้ หลังจากรับวัคซีนแล้วยังคงต้องให้เด็กล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างตามหลักการทั่วไปของการป้องกันโรคโควิด19 เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการแพทย์
คลิปแนะนำอีจัน
ทีมใคร ใครก็รัก!