จากเหตุการณ์ ด.ช.14 ปี กราดยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.66 ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่าเกิดจากแรงจูงใจอะไร และหนึ่งในนั้นคือ คาดการณ์ว่าเป็นเพราะติดเกมส์ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เบื้องต้นมีผู้ถูกยิง 7 คน เสียชีวิต 2 คน เป็นชาวจีน และชาวเมียนมา ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน
Live อัปเดต : พารากอน เกิดเหตุชุลมุน หลังมีเสียงดังคล้ายปืน หลายนัด“บิ๊กต่อ” ยกเคส มือปืนวัย 14 ปี ต้องถอดบทเรียนเพื่อเฝ้าระวังขณะที่ทวิตเตอร์ดัน แฮชแท็ก อย่าโทษเกมส์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ซึ่งมีการถกเถียงกันว่าเป็นเพราะเกมส์ และไม่ได้เกี่ยวกับการเล่นเกมส์
วันนี้ อีจัน แข็งแรง จะพามาดูข้อมูลจากหมอโรคระบบประสาทและสมอง ว่าติดเกมส์เลียนแบบจริงไหม?
ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบประสาทและสมอง โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “สาระสมอง กับ อจ.หมอสุรัตน์” วิเคราะห์เกี่ยวกับข่าวเด็กวัย 14 ไล่ยิงคนกลางห้างพารากอน ว่า …
มีคนขุดประวัติติดเกมส์ยิงกัน เกมส์โหด มาเป็นแพะ นี่ไง เด็กติดเกมส์ เลยเลียนแบบเกมส์ไง แล้วมันจริงหรือ เรามาดูข้อมูลกันดีกว่า
เรื่องราวนี้ ถูกวิจัยใน สหราชอาณาจักร ในกลุ่มเด็กติดเกมส์รุนแรง โหดร้าย กว่า 1,000 ราย แล้วเอาเด็กเหล่านี้มา ทดสอบทางจิตวิทยา พฤติกรรม ว่า โหดร้าย และ ก้าวร้าว หรือ มีแนวคิดเป็นฆาตกรจริงหรือ เด็กก็อายุนี่แหละ 14-15 ปี วัยเดียวกับมือปืนเลย วิจัยใน ปี 2019
ผลปรากฎว่า ในวิจัย มันไม่เกี่ยวกันเลย เด็กติดหรือเล่นเกมส์โหดร้ายยิงกัน ไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนพฤติกรรม จริงๆ ในต่างประเทศ ก็ทำวิจัยเชิงนี้เยอะ ผลมันออกมาว่า ไม่ชัดเจน (แต่ในกลุ่มจิตเวช สิ่งแวดล้อมหลายๆ อย่างอาจเป็นตัวกระตุ้น ทั้งข่าว ทั้งเลียนแบบ หรือเกมส์)
แล้วอะไรทำให้จิตใจโหดร้าย สรุป 9 ปัจจัย ทำเด็กโหดได้ คือ
1. สภาพแวดล้อมทางสังคม : การเติบโตในละแวกใกล้เคียงที่มีอัตราการก่ออาชญากรรมสูงหรือพบปะกับกลุ่มเพื่อนอาชญากร สามารถเพิ่มโอกาสที่คนหนุ่มสาวจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางอาญาได้
2. พลวัตของครอบครัว : สภาพแวดล้อมในครอบครัวที่ผิดปกติ ความผิดทางอาญาของผู้ปกครอง การละเลย หรือการทารุณกรรมในวัยเด็ก อาจส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงที่จะมีพฤติกรรมทางอาญาในวัยหนุ่มสาว ตีเด็ก ทุบหัวเด็ก โตขึ้น มันก็ไปตีหัวคนอื่น
3. การใช้สารเสพติด : การใช้สารเสพติด รวมถึงการติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติด มักเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางอาญาในหมู่คนหนุ่มสาว เนื่องจากอาจทำให้วิจารณญาณลดลงและนำไปสู่พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายได้
4. ปัญหาสุขภาพจิต : คนหนุ่มสาวที่มีความผิดปกติด้านสุขภาพจิตที่ไม่ได้รับการรักษาหรือไม่ได้รับการวินิจฉัยอาจมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมทางอาญามากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการของพวกเขานำไปสู่ความหุนหันพลันแล่นหรือก้าวร้าว พ่อแม่สังเกตดีๆ อย่าอวยว่าลูกชั้นปกติ
5. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ : ความไม่มั่นคงทางการเงิน การขาดโอกาสทางการศึกษา และโอกาสในการจ้างงานที่จำกัด อาจทำให้คนหนุ่มสาวบางคนหันเข้าหากิจกรรมทางอาญาเพื่อความอยู่รอด
6. แรงกดดันจากเพื่อนฝูง : อิทธิพลจากเพื่อนฝูงที่มีพฤติกรรมก่ออาชญากรรมสามารถชักนำให้คนหนุ่มสาวเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้ เนื่องจากพวกเขาอาจแสวงหาการยอมรับจากแวดวงสังคมของตน พ่อแม่ ให้ลูกพาเพื่อนๆ มาบ้านบ้าง สอดส่องดูแล
7. การขาดแบบอย่างเชิงบวก : การไม่มีแบบอย่างที่ดีของผู้ใหญ่หรือพี่เลี้ยงในชีวิตคนหนุ่มสาวอาจส่งผลให้ขาดคำแนะนำและเพิ่มความเสี่ยงต่อพฤติกรรมทางอาญา
8. ความขาดด้านการศึกษา : การไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสามารถจำกัดโอกาสสำหรับเยาวชน และอาจผลักดันพวกเขาไปสู่กิจกรรมทางอาญา
9. ความหุนหันพลันแล่น : เนื่องจากอยู่ในช่วงพัฒนาการของคนหนุ่มสาว อาจมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่นมากกว่า ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมทางอาญาในบางสถานการณ์ได้
นี้เป็นปัจจัย ซึ่งหากหลายคนมีหลายปัจจัย ก็ยิ่งเสี่ยง
และอีกข้อ เป็น “กรรม” เกิดมาเป็น ไซโคพาธ (Psychopath) คือ ผู้ที่มีภาวะผิดปกติทางจิตใจชนิดหนึ่งเองเลย สมองฆาตกร
เท่าที่ทราบจากข่าว เด็กมีภาวะจิตเวช อาจเกิดจากแรงกดดันในวัยเด็ก เข้าสังคม เจอเพื่อนที่เร่งเร้าเรื่องการใช้ความรุนแรง ท้าทายกัน ทำให้สภาพจิตใจที่ไม่ปกติ คิดกระทำโดยรู้เท่าถึงการณ์
อ่านจบแล้วลองย้อนถามตัวเองดูนะคะ ว่าคนรอบข้างเรา ลูกหลานเรา หรือแม้แต่ตัวเราเป็นแบบนี้หรือไม่