
จากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในประเทศสเปนและโปรตุเกส เมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายน ส่งผลให้เกิดความขัดข้องครั้งใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงปัญหาในยุคดิจิทัลอย่าง “ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งหยุดทำงาน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทำให้ประชาชนหันกลับมาให้ความสนใจ “เงินสด” มากยิ่งขึ้น

(30 เม.ย. 68) เว็บไซต์ EuroWeekly ได้วิเคราะห์บทเรียนของเหตุการณ์ไฟดับที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบุว่า ที่ผ่านมาธุรกิจจำนวนมากในสเปน หันมาใช้เงินสดในการทำธุรกรรมเท่านั้น ส่งผลให้ต้องต่อคิวยาวและต้องยกเลิกการซื้อสินค้า ยกตัวอย่างเช่น ที่สนามบินมาดริด-บาราคัส เกิดกรณีคนขับแท็กซี่ไม่สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรได้ ทำให้ผู้โดยสารที่ไม่มีเงินสด ก่อนจะต้องหาวิธีการขนส่งอื่น เช่นเดียวกับสินค้าพื้นฐาน เช่น ขนมปัง น้ำ และยาต่าง ๆ กลายเป็นสินค้าที่หาซื้อไม่ได้สำหรับผู้คนจำนวนมาก

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ไฟดับ) ยังทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับแผนการของสหภาพยุโรปในการสร้างยูโรดิจิทัล แสดงให้เห็นว่าเงินสดยังคงเป็น “พระเจ้า” อย่างน้อยก็ในช่วงที่เทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานเกิดล่ม ถึงแม้ว่าแนวคิดเรื่องการไม่มีเงินสด จะได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่หากไม่มีพลังงาน เงินดิจิทัลก็ไม่มีประโยชน์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากระแสไฟฟ้าในยุโรป จะเริ่มกลับมาใช้ได้ตามปกติแล้ว แต่ธุรกิจหลายแห่งยังคงรับชำระเฉพาะเงินสดเท่านั้น เนื่องจากเกิดความกังวลต่อระชำระเงินดิจิทัล ซึ่งเหตุการณ์นี้ ตั้งคำถามสำคัญให้กับรัฐบาลยุโรปถึงมาตรการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในสังคมที่ไร้เงินสด
ขอบคุณข้อมูล : EuroWeekly