เกษตรกร ผู้ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ได้เล่าว่า ทดลองปลูกโดยใช้กล่องโฟม มาทำเป็นระบบไฮโดรโปนิกส์ เพราะเป็นคนชอบทาน สลัดผัก แต่เนื่องด้วยในพื้นที่ หาซื้อผักค่อนข้างยาก จึงหาความรู้จากอินเตอร์เน็ต แล้วมาทดลองปลูก ลองผิดลองถูกอยู่นาน จนสามารถ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ไว้รับประทานเองได้
ทั้งนี้ นอกจากจะเอาไว้ทานเองแล้ว ยังเหลือแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน จนกระทั่ง มีคนมาขอซื้อ ซึ่งตนเห็นว่า เป็นช่องทางสร้างอาชีพ จึงได้ซื้ออุปกรณ์มาทดลองทำโรงเรือน ปลูกผัก ขนาดย่อม ใช้พื้นที่ว่างด้านหน้าบ้านจำนวน 2 งาน ลงทุนสร้างโรงเรือน และซื้ออุปกรณ์ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ครั้งแรกลงทุนเพียง 5 หมื่นบาท หลังจากนั้น ลงทุน ปลูกผักสลัด ผักชี ผักขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง อีก 1 หมื่นบาท ใช้ระยะเวลาปลูกเพียง 35-40 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตออกขายได้
ซึ่งปัจจุบัน ผักที่ปลูกในระบบ ไฮโดรโปนิกส์ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นผักปลอดสารพิษ และที่สำคัญผักเหล่านี้ มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ทำให้ ผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นที่ต้องการของตลาด
ซึ่งสิ่งสำคัญในการปลูกผักในระบบไฮโดรโปนิกส์ นอกจากจะต้องตรวจถังและเติมน้ำสะอาดลงในถังใต้โต๊ะปลูกแล้ว จะต้องระวังอย่าให้ผักโดนแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง เพราะผักเหล่านี้เป็นผักที่ชอบอากาศเย็น ถ้าโดนความร้อนจะทำให้ใบผักเหี่ยวเฉา ขายไม่ได้ราคา ซึ่งผักที่ตนขายให้ผู้ซื้อโดยตรง จะขายในราคากิโลกรัมละ 100 บาทเท่านั้น