วันนี้เราได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ เกษตรกรท่านหนึ่ง ที่บอกกับทีมจันลั่นทุ่งว่า ตนเองยังไม่ถึงขั้นเกษตรกรหรอก เพราะสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ มันคือ งานอดิเรก ซึ่งพี่คนนั้นคือ นายวชิรวิทย์ เมืองสุวรรณ ( ปาล์ม ) เล่ากับทีมงานว่า แต่ก่อนตนเคยทำงานที่ถนนข้าวสารที่ร้านอาหาร มีช่วงหนึ่งทางบริษัทให้พนักงานปลูกผักเอง ทางบริษัทมีชุดอุปกรณ์ ปลูกผัก และมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำ ตนจึงได้เริ่มการ ปลูกผัก จากที่นั้นเป็นที่แรก
และเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วงโควิดซา ตนจึงตัดสินใจลาออกมาอยู่ที่บ้านที่ จ.ยะลา คนมันเคยทำงานกลางคืนอยู่ถนนข้าวสารมาก่อน มันก็จะเซ็งๆนอยด์ๆ ตอนกลับมาอยู่บ้านเลยอยากหาอะไรทำแก้เบื่อ ตอนแรกปลูกบนดาดฟ้า ในพื้นที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ตอนนั้นตนลองขึ้นไปเดินเล่นบนดาดฟ้า มองพื้นที่ตรงนั้น แบบต้องทำอะไรสักอย่าง อยู่ๆก็รู้สึกว่า เราต้อง ปลูกผัก เราปลูกผักได้ ก็เลยปลูกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในตอนนี้ตน ปลูกผัก 6 ชนิด คือ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส ฟินเล่ย์ บัตเตอร์เฮด และเรดคลอรัล ซึ่งการ ปลูกผัก ถ้าถามว่ายากไหม ณ ตอนนี้ ต้องบอกเลยว่า ไม่ยาก สำหรับมือใหม่ที่อยากจะลอง ต้องบอกก่อนว่า มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เราอาศัยความรู้สึกมากกว่าความรู้ หมั่นเอาใจใส่ ดูแลบ่อยๆ โดยตนเองจะมีเพจที่เอาไว้คอยอัพเดตชีวิตประจำวันในการปลูกผักของเรา ว่ารอบนี้เราปลูกอะไรบ้าง เจอปัญหาอะไรไหม อายุผักแต่ละวัน รวมไปถึงเอาไว้อัพเดตการเจริญเติบโตของผัก เมื่อทำเพจแล้วลงบันทึกไปเรื่อยๆ เราจะเห็นการวนเวียนเป็นวัฏจักรของมัน
และถ้าถามถึงเคล็ดลับในการปลูก คือว่าเราต้องรู้จักธรรมชาติของผักให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อเวลาผักอยู่ในมือเรา แล้วเราเห็นว่า ผักชุดนี้สวยจัง ผักรอบนี้งามจัง ต้นใหญ่ น้ำหนักดี เราก็จะมองย้อนกลับไปตอนเริ่มปลูกมา เราทำอะไรไปบ้าง และเมื่อเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็จะชินมือไปเอง
สำหรับคนที่เริ่มปลูกมือใหม่ แนะนำว่าให้ลองไปก่อนเลย ลองไปแบบไม่ต้องรู้อะไรมาก เพราะในช่วงแรกอาจจะต้องใช้ความรู้สึกควบคู่ไปด้วย เพราะต่อให้เรามีความรู้มากแค่ไหน สมมติว่าเราลงทุนไปเรียนมา แต่ไม่เคยลงมือทำมันเลย มันก็ไม่เวิร์ค ต่อให้เรียนจากคนที่เก่งขนาดไหน พอมาเจอหน้างานจริงๆ มันก็ไม่เหมือนที่เรียนมาแน่นอน ของแบบนี้ต้องลองเอง
ทั้งนี้ สวนผักของตน ได้ใช้ที่ว่างหลังบ้านในการทำสวน พอดีตอนนี้ตนเปิดร้านอาหารอยู่ด้วย เมื่อก่อนตรงนั้นเคยเป็นบ่อปลา แล้วมันไม่เวิร์คเลยถมดินไป เอามาทำเป็นสวนผักแทนในปัจจุบัน ส่วนเรื่องปุ๋ยเราจะใช้ปุ๋ยเฉพาะทางที่ปลูกผักกลางแจ้งเท่านั้น โดยต้องบอกก่อนว่า คนทั่วไปที่ปลูกผักก็มักจะปลูกในโรงเรือนที่มีหลังคา เพราะหลายๆคนที่เป็นมือใหม่ในการปลูก ความคิดแรกของเขาก็คือ ต้องสร้างโรงเรือน สร้างหลังคา ให้ผัก ในก่อนหน้านี้เราก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ซึ่งมันก็ใช้ได้ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี
แต่ปุ๋ยโดยทั่วๆไป มันไม่ได้ออกแบบมาเผื่อทำงานกลางแจ้ง มันจะเจือจางมากๆ ไม่ใช่ไม่ดีแค่ไม่เหมาะ เราเลยสั่งทำปุ๋ยเอง ก็บอกไอเดียเขาไปว่า อยากได้ปุ๋ยที่ปลูกกลางแจ้ได้ ไม่ต้องเปลี่ยนปุ๋ย ไม่ต้องซ้ำ ไม่ต้องเติม ไม่ต้องวัดค่าอะไรแล้ว ราคาแพงไม่เป็นไร เราขอแค่ผักเราดี ซึ่งมันก็คุ้ม
อีกอย่างที่เราจะบอกคือ คนส่วนใหญ่มักจะชอบเข้าใจผิดว่า ผักสลัดเป็นผักที่ไม่ชอบแดด เขาก็เลยทำหลังคา ทำแสลน ทำโรงเรือนกัน ส่วนตัวตนคิดว่า ผักสลัดเป็นผักที่ชอบแดดมากๆ แต่แค่มันไม่ชอบอากาศร้อน ต้องแยกให้ออก คือถ้าเกิดเจอว่า ช่วงนี้อากาศร้อนจัง ช่วงนี้แดดเยอะจัง เอาสแลนมากางดีกว่า มันก็อาจจะดีตรงที่กันความร้อนได้ประมาณหนึ่ง แต่มันจะแย่มากๆเลย ที่ไม่มีแดดให้ผักของเรา
720 ต้น ที่เราปลูกอยู่ตอนนี้ สามารถสร้างรายได้เสริมจากงานอดิเรกต่อเดือน 20,000 บาท โดยที่สวนตนเองจะขายต้นละ 30 บาท แบบไม่ชั่งกิโล และสิ่งที่อยากจะบอกกับเกษตรกรมือใหม่ทุกคนว่า ทำเกษตรมันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปขนาดนั้น เราก็เป็นเราคนเดิม แต่เป็นเราในรูปแบบที่ดีขึ้น ใครที่ถ้าอยากทำเกษตรก็ทำเลย ลองทำดูหลายๆแบบ สุดท้ายเราจะรู้ว่าทำแบบที่เราชอบดีที่สุด เหมือนที่เราเคยเจอว่า ทำไมบ้านนั้นบอกให้เราลงผักวันนี้ บ้านนี้บอกให้เราลงผักวันนู้น จริงๆ แล้วมันก็แล้วแต่บ้านใครบ้านมันสะดวกแบบไหน หรือปัจจัยภายนอก ดิน ฟ้า อากาศ น้ำ ฝน แดด เป็นยังไงไม่เหมือนกัน สุดท้ายเราจะตกผนึกวิธีการเป็นแบบฉบับของตัวเราเอง ที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ เพจFB : HydroPalmnic